วันศุกร์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

เขียนบล็อก

จริงแล้วการเขียนบล็อกก็เหมือนการเขียนไดอารี บันทึกแและจดจำเรื่องราวของเราเอง ในบางเรื่องเวลาผ่านไป ความทรงจำก็ลบเลือน หากมีการจดบันทึกไว้ เวลาระลึกได้ก็สามารมาเปิดไดอารีของตนเองรื้อฟื้นความทรงจำ หรือความรู้ที่เก็บไว้ ก็จะเป็นการดี

ผมไม่ได้อับเดทบล็อกมาหลายเดือน สืบเนื่องจากงานส่วนตัวก็เยอะ งานประจำก็แยะ  เพราะเปลี่ยนตำแหน่งใหม่ จากตำบล เข้ามาอยู่อำเภอ ต้องเรียนรู้งานใหม่ ซึ่งแม้จะไม่ได้ให้บริการประชาชนโดยตรง แต่ก็ต้องให้บริการเพื่อนร่วมงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ถือว่าเป็นงานใหม่ที่ยากขึ้น ต้องเรียนรู้และฝึกฝนอีกหลายเท่า บางครั้งก็ลังเลสงสัยในสมรรถนะของตนเอง ก็ต้องบอกกับตนเองว่า จะต้องทำให้ดีที่สุด...

สำหรับผม การเขียนบล็อกก็เหมือนกับการเขียนไดอารี บันทึกเรื่องราวต่างๆที่อยากเล่า มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง อย่างน้อยก็เป็นการจดบันทึกเรื่องราว เวลาผ่านไปนานวันจำไม่ได้ก็กลับมาเปิดดู หรืออาจจะีมีบ้างที่เรื่องราวที่เขียนจะเป็นประโยชน์กับคนอื่น

ผมจดโดเมน mansiri.com มาตั้งแต่ปี 50 ด้วยใจรักเรื่องการทำเว็บไซต์ ตอนแรกก็ยังนึกไม่ออกว่าจะใช้ทำอะไร เห็นเขามีเว็บก็อยากมีกะเขาบ้าง ก็สัพเพเหระไปเรื่อย จนต่อมาก็มีแนวคิดเรื่อง seo ทำไปก็มีทราฟฟิกเข้ามาบ้าง Google PageRank ขึ้นถึง3 แล้วก็ได้แนวคิดเรื่องหารายได้ผ่านเน็ต(sem) ทำไปสักพักก็รู้ว่ามันไม่ใช่ เพราะจุดประสงค์การเขียนบล็อกก็ดังกล่าวข้างต้น การที่คนเข้ามาอ่านบล็อกเรา แล้วเรายัดเยียด หรือแอบยัดเยียดอะไรบางอย่างให้เค้า เพื่อหารายได้ สำหรับเว็บที่เราเปิดเผยตัวตน(Cyber Identity) แล้วไม่สมควร กล่าวคือชื่อเว็บผมมันสื่อถึงตนเอง mansiri = mana siriliang และผมก็บอกว่าผมเองเป็นใคร ในที่สุด mansiri.com ก็เป็นปล็อกที่เอาไว้เขียนเรื่องราวสัพเพเหระจนทุกวันนี้ สำหรับการทำเว็บเพื่อหารายได้ก็ไปทำที่อื่นที่ไม่มีคน(ไทย)รู้จัก

ดูจาก stat แล้ว ก็แอบดีใจที่มีคนเข้ามาอ่าน แม้ไม่มาก และ Google PageRank=0 แต่ก็ยังดีใจ

บางท่านอาจสงสัยว่าทำมัยผมปิด comment เหตุก็เพราะว่า ผมเบื่อพวก spam ที่เข้ามาถล่มเว็บ ซึ่งจะว่าไปแล้ว โลกไซเบอร์ก็เหมืิอนกับโลกความเป็นจริง มีทั้งคนประสงค์ดี และประสงค์ไม่ดี(อาจจะดีแต่ร้ายสำหรับเรา) ก็คงไม่เป็นไร ถ้าอยาก contact กัน ก็ได้นะครับที่ http://www.facebook.com/mansiricom