วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2553
วันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553
หารายได้ทางอินเตอร์เน็ต
มีคนกลุ่มนึงที่มีอาชีพหาเงินทางอินเตอร์เน็ต ดูแล้วก็น่าอิจฉา งานอิสระ เป็นนายตัวเอง… แต่ว่าก็ต้องอาศัยความสามารถ และเวลาพอสมควร
รายได้มากน้อยแตกต่างกันไป ซึ่งก็แปลผันตรงกับความสามารถ บางคนยึดเป็นอาชีพหลัก บางคนทำเป็นอาชีพรอง แต่รายได้มากกว่าอาชีพหลัก รายได้ที่เห็นเปิดเผยกันที่ผมเห็น(ที่ไม่ใช่เจ้าของกิจการโดยตรง) เห็นมากถึงสองแสนบาทต่อเดือน ก็มากพอที่จะเลี้ยงครอบครัวได้ สำหรับมนุษย์เงินเดือน
เมื่อก่อนก็ไม่ค่อยเชื่อเรื่องการหาเงินผ่านเน็ตว่าทำได้จริง แต่ตอนเชื่อโดยสนิทใจ และก็เชื่อมั่นว่า คนเราขอให้มีความรู้และเก่งซะอย่าง ก็มีช่องทางหาเงิน(โดยสุจริต)ได้อยู่แล้ว โดยเฉพาะความรู้ด้านไอที และภาษา ซึ่งสองอย่างนี้ควรอย่างยิ่งที่จะต้องบอกลูกหลานให้เรียนรู้ไว้ จะไม่ไร้ซึ่งหนทางทำกินแน่นอน
ปล. นอกจากเฟสบุ๊ค และที่นี่ดอทคอมแล้ว แนะนำให้อ่าน thaiseoboard.com หรือ redtor.com
วันพุธที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2553
ลองเล่น facebook
เคยมี account ตั้งแต่เริ่มมี facebook ใหม่ๆ(ตอนยังไม่ดัง) แต่ไม่ได้เข้าไปเล่นสักที หยุดเสาร์-อาทิตย์ พอมีเวลาเลยลองเล่นดู พอเข้าไปก็เจอเพื่อนเก่าสมัยมัธยมหลายคน น่าทึ่งมากกับ Social Networks ตัวนี้ของนาย Mark Zuckerberg มีผู้ใช้กว่า 350ล้านคน มากกว่า google ซะอีก โอ้โห….
คนเล่นมาก ทราฟริกก็ต้องมาก น่าสนมากเลยเพราะผมก็ต้องการทราฟฟิก เพื่อทำ Margeting มิน่าละบริษัทชั้นนำจึงให้ความสนใจทำ Margeting ผ่าน facebook ผมยังไม่รู้ว่าเขาทำกันยังงัย อย่าง Red Bull ที่คนไทยรู้จักดี ตอนนี้เขาดังไปทั่วโลก ไม่ต้องมาง้อเหล้าขาว น้อย-ทิง อีกแล้ว เอ….เขาทำยังงัย
วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2553
ผมชอบ google
ไม่มีวันใหนเลยที่ผมไม่ใช้บริการของ google ถ้าต้องจับคอมฯ(จริงๆแล้วก็ทุกวันนั่นแหละ) หน้าแรกที่ผมจะเข้าก็คือ google.com ที่จะเป็นเว็บท่าในการไปเว็บอื่น ไม่แปลกที่คนใช้บริการของ google มากกว่า 200ล้านต่อวัน
ผมเป็นคนชอบซื้อ และเก็บสะสมหนังสือ ตอนย้ายบ้าน ไปรื้อหนังสือออกมา กองท่วมหัว เอาให้ใครก็ไม่มีใครเอา เลยไปบริจาค ตอนนี้ผมไม่จำเป็นต้องซื้อหนังสือแล้ว อยากรู้อะไร ค้นเน็ตอย่างเดียว มีหมดทุกอย่าง ค้นง่าย มีระบบดัชนีที่ดีเยี่ยมมากกว่าห้องสมุดใหนๆ
ผมบ้ากับ google มาก ทั้งคลั่ง และหลงใหล ศึกษา และหากินกับ google มาเมื่อปีสองปีมาแล้ว ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอัลกอริทึมของเค้าสักที ยิ่งตอนนี้กูเกิ้ล ปล่อยอัลกอริทึมที่ชื่อว่าแพนด้าออกมา ชาวSEO โดนสอยร่วงไปตามๆกัน
มีบัญชีของกูเกิ้ล ล็อกอินเข้าไปครั้งเดียวใช้บริการของกูเกิ้ลได้ทุกอย่าง ที่สำคัญคือ ฟรี!! (ยกเว้นถ้าอยากทำโฆษณากับเค้า) มีหลายอย่างที่ผมชอบ ทีใช้ประจำก็แน่ๆล่ะ gmailกับความจุมหาศาล map, translate, doc ,calendar, site, blog, etc.
วิวัฒนาการโลกออนไลน์ไปเร็วมากครับ นึกย้อนกลับไปเมื่อเมื่อก่อน เมื่อ10กว่าปีก่อน ใครจะรู้ว่าตาสีตาสาตามบ้านนอกจะมีโทรศัพท์มือถือ วันนี้คุณลองไปดูสิที่ตะกร้าหมากของคุณยายจะมีโทรศัพท์อย่างน้อย 1 เครื่อง เราๆท่านๆมีมือถือกันทุกคน แถมมีซิมทุกเครือข่าย
เมื่อก่อนตอนเริ่มทำงานจะไปประชุม ต้องหอบเอกสารพะรุงพะรัง จะส่งงานก็เป็นรายงานกระดาษสิ้นเปลืองทรัพยากรต้นไม้มาทำกระดาษเป็นตันๆ ต่อมาดีหน่อย เข้าสู่ระบบ Electronic File ส่งงาน/เก็บข้อมูลในแผ่น Flopy disk ต่อมาก็เป็น CD-R ต่อมาอีกเป็น CD-RW เขียนได้ลบได้ แล้วก็มาแฮนด์ไดร์ฟ มาเป็น External Harddrive ความจุก็เพิ่มขึ้น จากแผ่นฟล็อบปี้ 1.44k ตอนี้เก็ได้เป็นหลายGB
ที่ว่ามาทั้งหมดผมว่าต่อไปเราคงจะไม่ได้ใช้แล้ว เพราะจะเข้าสู่ระบบโลกออนไลน์ไปหมด ไม่ต้องพกอะไรกันแล้ว ในสมองพกแต่ username และ password อย่างเอกสารตอนนี้ก็เก็บเข้า google doc ซึ่งเปรียบเสมือน HD บนโลกออนไลน์ สามารถนำออกมาใช้ได้ทุกที่ทุกเวลา ขอให้เข้าเน็ตได้(ซึ่งต่อไปทุกพื้นที่ทุกตารางเมตรจะเข้าถึงได้ เหมือนกรณีโทรศัพท์) การทำธุรกรรมการการเงินก็ออนไลน์ ซึ่งตอนนี้ก็มี Internet banking แทนการไปตู้เอทีเอ็ม ทำได้ทุกอย่างยกเว้นถอนเป็นเงินสด แล้วต่อไปเงินสดก็อาจจะไม่มีใช้ ฮ่าๆๆ กินก่อนแล้วค่อยหักบัญชีเด้อ..เครดิตงัย โทรศัพท์มือถือก็จะเป็นแบบ disposs หาซื้อได้ตามร้านสะดวกซื้อ โทรเสร็จก็โยนทิ้งเหมือนไม้ขีดไฟ
อีกอันของ google doc ที่ผมชอบคือสามารถสร้างเอกสารใหม่ได้เหมือน word เหมือน Excel เลยทีเดียว สร้างเสร็จสั้งปรินต์และเก็บไว้ในนั้น ใช้ฟรี ไม่มีลิขสิทธิ์เหมือนไมโครซอฟ
ทุกวันนี้ผมใช้บริการของกูเกิลเป็นประจำ คิดอะไรไม่ออกบอกพี่กู เอ..วันนี้หาลูกกุญแจไม่เจอ วานพี่กูช่วยค้นหาจะได้มั้ยเนี่ย???
วันพุธที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
อยากเก่งภาษาอังกฤษ
วันนี้นั่งพิมพ์คอมอยู่ มีลุงคนนึงมาทัก ..สบายจังนะ นั่งเล่นแต่คอม ไม่ได้ตากแดดตากฝน ดำนาเหมือนลุง ฟังแล้วนึกฉุนอยู่ในใจ อาไรหว่า เราไม่ได้เล่น เราทำงานต่างหาก แต่ก็ตอบลุงคนนั้นว่า ผมก็กำลังดำนาเหมือนกันนะลุง แล้วก็ชี้ไปที่เครื่องคอม นี่งัย..นาผม
เรื่องของเรื่องก็คือ ผมไปได้คู่มือการสร้างบล้อกเพื่อหารายได้มา เลยนั่งอ่านหน้าจอคอมจนเพลิน อ่านจบแล้วผมว่าผมทำได้ทุกอย่าง ตามคู่มือ มีอย่างเดียวที่ผมทำไม่ได้ และก็เป็นเรื่องที่สำคัญเสียด้วย คือการเขียน content เพราะว่า content is the king ต่อให้ทำเว็บดีขนาดใหน ถ้าเนื้อหาไม่ดี คนอ่านแล้วไม่รู้เรื่อง เว็บนั้นก็จะไม่ได้เกิด และถ้าไปก็อบปี้เนื้อหาเค้ามา ก็จะเป็น duplicate content แล้วก้จะไม่มีใครหาเว็บนั้นเจอ เพราะอัลกอริทึมของกูเกิ้ล ที่ชื่อว่า google panda จะตามเก็บเว็บนั้นจนไม่ได้ผุดได้เกิด
จะว่าไปแล้วใครที่เก่งภาษาอังกฤษก็จะได้เปรียบมากๆ อย่างวิสัยทัศน์ประเทศไทยที่ว่า “…คนไทยต้องสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก…” ในแวดวงข้าราชการเองก็นำมาปรับใช้ ในการประเมินเลื่อนระดับ จะต้องมีการสอบอย่างน้อย 2 อย่าง คือ ความรู้เรื่องเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และภาษาอังกฤษ
การทำเว็บฯ ที่มีเนื้อหาที่เขียนเองและไม่ซ้ำกับใคร จะเป็นที่ชื่นชอบของ search engineมาก(ภาษาบ้านผมว่า..หอมคือข้าวเม่า) เมื่อมีคนค้นหาด้วย key word จะพบเว็บดังกล่าวและเข้ามาเยี่ยมชมเว็บ และถ้ามีโวหารในการเขียนโน้มน้าวให้คนอ่านคล้อยตามแล้วล่ะก็…ไม่อยากจะพูด …
ที่เล่ามาทั้งหมดเป็นช่องทางทำเงิน ที่ไม่น่าจะยาก แต่จริงๆแล้วโคตรยากสำหรับผม เพราภาษาอังกฤษ snakeๆ fishๆ สงสัยต้องหาแฟนฝรั่งสักคนแล้ว..อิอิ..เอิ้กๆๆ
วันพุธที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2553
ทฤษฎี 2 บาท
i – x = rich
i – y = poor
เมื่อ i = 100 , x =99 , y=101
อธิบายได้ว่า ถ้าคุณมีเงินอยู่ 100 บาท ใช้จ่ายไป 99 บาท ผลลัพธ์ คือ รวย
และ ถ้าคุณมีเงินอยู่ 100 บาท ใช้จ่ายไป 101 บาท ผลลัพธ์ คือ จน
99 และ 101 บาท ต่างกันอยู่ 2 บาท
2 บาท นี้คือตัวแปร ที่จะทำให้คุณ รวย หรือ จน
เขียนเป็นภาษา php ได้ดังนี้
$i=income;
$p=pay;
$x=$i-$p;
if ($x>0){
echo “รวย!!!!!”;
}
else{
echo “จน!!!!!”;
}
?>
อิอิ..อันนี้ผมมั่วเอง *_*
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)